IELTS 7.0 ต้องเตรียมตัวยังไง ฉบับเภสัชกรอยากเรียนต่อที่อังกฤษ (1/3)

     


IELTS คืออะไร สอบไปทำไม

เชื่อว่าผู้อ่านหลายคนคงเคยได้ยินการสอบมาตรฐานความรู้ภาษาอังกฤษอย่าง IELTS มาบ้าง IELTS นั้นย่อมาจาก International English Language Testing System ซึ่งแบ่งออกเป็นสองรูปแบบ คือ General Test และ Academic ในบทความนี้จะพูดเฉพาะ Academic IELTS ซึ่งใช้เป็นมาตรฐานภาษาอังกฤษที่ใช้สำหรับการเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร สำหรับเภสัชกรที่มีความฝันในการเรียนต่อปริญญาโทในสหราชอาณาจักรนั้น การสอบ IELTS จึงเป็นหมุดหมายสำคัญที่ต้องพิชิตให้ได้ครับ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีการใช้ IELTS เป็นการทดสอบมาตรฐานมากขึ้นไม่ว่าจะใช้ในการยื่นสอบแพทย์ในสนามความสามารถพิเศษด้านภาษาอังกฤษของน้อง ๆมัธยมปลาย หรือใช้เป็นมาตรฐานในการรับเข้าทำงาน การขอทุนการศึกษาต่อต่างประเทศ และการศึกษาต่อปริญญาโทในประเทศ 

IELTS ทดสอบทักษะอะไรบ้าง คะแนนเต็มเท่าไหร่ ได้คะแนนเท่าไหร่ถึงพอ

IELTS นั้นวัดทักษะภาษาอังกฤษทั้ง 4 ด้าน คือ ฟัง (Listening ) พูด (Speaking) อ่าน (Reading) เขียน (Writing) ครับ ในบทความนี้ผมจะเรียกว่า “4 ทักษะ” โดยแต่ละทักษะจะมีคะแนนเต็ม 9.0 เรียกคะแนนว่า Band โดยจะมีการให้คะแนนแบบครึ่งหนึ่งด้วย เช่น Band 5.5, 6.5, 7.5 เป็นต้น เมื่อได้คะแนนทั้ง 4 ทักษะแล้ว จะนำคะแนนทั้งหมดมาทำการเฉลี่ยเรียกว่า Overall Band score ซึ่งจะเต็ม 9.0 เช่นกัน 

ตัวอย่างผลสอบ IELTS

มหาวิทยาลัยแต่ละที่จะเป็นผู้กำหนด Band ของ IELTS โดยมี Overall Band score ตั้งแต่ 6.0-7.5 เลยทีเดียว นอกจากนั้นยังกำหนด Band ขั้นต่ำในแต่ละทักษะ เช่น ต้องไม่มีทักษะใดได้ Band ต่ำกว่า 5.5 เป็นต้น ในบางมหาวิทยาลัยหากสอบ IELTS ไม่ผ่านนั้นจะมี pre-sessional course ให้เรียนด้วย พูดแบบง่าย ๆ คือ ถ้าสอบไม่ผ่านเรามีคอร์สให้ลงเรียนเสียเงินก่อนถึงได้เข้าเรียน อย่างไรก็ตามมหาวิทยาลัยที่เป็น Top university นั้นมักไม่มี pre-sessional course หมายความว่าถ้าสอบ IELTS ไม่ผ่านก็เข้าเรียนไม่ได้นั่นเอง

สำหรับเภสัชกรนั้น ในมหาวิทยาลัยชั้นนำที่เปิดสอนเกี่ยวกับด้านการแพทย์ เช่น Imperial College London, The London School of Hygiene & Tropical Medicine (LSHTM), University of Oxford มักจะต้องการ Overall Band score ขั้นต่ำ 7.0 และแต่ละทักษะย่อยต้องไม่ต่ำกว่า 6.5 ครับ

Tips: การจะเพิ่มคะแนน IELTS ในแต่ละ Band เพียง 0.5 นั้นใช้เวลาเฉลี่ยในการเตรียมตัวประมาณ 2 เดือนครับ เช่น ต้องการเพิ่ม Band ของ writing จาก 6.0 เป็น 6.5 ต้องเตรียมตัวเพิ่มอีก 2 เดือน เพราะฉะนั้นควรวางแผนเรื่องการเตรียมตัวและเวลาดี ๆ

.

3 ปัจจัยที่ส่งผลต่อคะแนน IELTS

ก่อนอื่นเลยผมขอเล่าส่วนผสมของการได้คะแนน IELTS ก่อนครับ ในความเห็นส่วนตัวของผมปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อคะแนนนั้นประกอบด้วย 3 อย่าง 

อย่างแรก คือ ทักษะภาษาอังกฤษ

อย่างที่สอง คือ ความเข้าใจในรูปแบบการสอบ IELTS หรือเรียกว่า Pattern ของข้อสอบ 

และอย่างสุดท้าย คือ ดวง

คุณอ่านไม่ผิดหรอกครับ ดวงสำคัญจริงๆ ผมไม่ได้พูดถึงดวงในมิติเชิงไสยศาสตร์นะครับ ขอพูดในเชิง random effect มากกว่า เนื่องจาก Topic ที่เราจะสอบนั้นได้มาแบบสุ่ม ยกตัวอย่างแบบนี้ครับ หากเภสัชกรได้เนื้อหาข้อสอบ เป็นเรื่อง Health อันนี้ยิ้มเลย เนื่องจากว่าเราจะมีคลังคำศัพท์และความเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีทำให้ทำข้อสอบได้เร็วและง่ายขึ้น แต่หากคุณโชคไม่ดีได้หัวข้อที่ไม่ถนัด เช่น ผมเคยได้เรื่องเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมหรือกฎหมาย อันนี้ก็เหนื่อยนิดนึงครับ ซึ่งเรื่องดวงนั้นในความเห็นส่วนตัวของผมคือ สามารถทำให้ Band บวก (+) ลบ (-) ได้ถึง 0.5 อย่างไรก็ตามเราสามารถ “เพิ่มดวง” ของตัวเองได้โดยเตรียมตัวมากขึ้นนั่นก็คือ ท่องศัพท์และหาเรื่องที่เราไม่ถนัดมาอ่านเพื่อเพิ่มความคุ้นเคยเตรียมไว้ก่อน

ผมยกตัวคะแนนของผมเอง ซึ่งสอบห่างกัน 2 สัปดาห์ และระหว่าง 2 สัปดาห์นั้นผมไม่ได้เตรียมตัวเพิ่มมากมายแต่อย่างใด เอาง่าย ๆ คือความรู้ความสามารถทางภาษาอังกฤษของผมไม่ต่างจากเดิมครับ

ผมจำได้ดีว่า Writing กับ Speaking รอบที่สองนั้น ผมได้หัวข้อที่ผมถนัดและเคยซ้อมไว้ก่อน ทำให้คะแนนเพิ่มขึ้นครับ

ในตอนถัดไปผมจะเล่าถึงการเตรียมตัวแต่ละทักษะ จากประสบการณ์ของผมเองใช้เวลาเตรียมประมาณ 6 สัปดาห์ครับ

Young Manager